วางฮวงจุ้ยดี เพิ่มศักยภาพทำเลธุรกิจ

หลายๆท่านคงเคยมองหาทำเลเพื่อทำธุรกิจ การค้า กันมาบ้างและคงได้เคยพบทำเลที่มีลักษณะที่เรามีความสงสัยว่าไม่ดี เช่น ผู้อยู่อาศัยเดิมนั้นทำธุรกิจแล้วไม่ดีไม่ประสบความสำเร็จ หรือ อยู่ในย่านที่ดูแล้วผู้คนยังไม่พลุกพล่าน ดูสภาพเงียบๆเหมือนกับว่าจะไม่สามารถทำธุรกิจได้ และท่านมีโอกาสที่จะได้ที่ดินหรือทำเลนั้นในราคาที่ไม่แพง แต่เนื่องจากอดีตที่ผ่านมาของทำเลนั้นๆไม่ดี จึงทำให้ท่านไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า ควรเสี่ยงในการเลือกทำเลนั้นๆหรือไม่

แกรนด์ มาริน่า เรสซิเด้นซ์ โฮเต็ล (Grand Marina Residence Hotel)
โรงแรมที่ อ.ตะวัน ได้เริ่มดูฮวงจุ้ยให้ตั้งแต่เป็นที่ดินเปล่า

ผมเองก็เคยต้องประเมินฮวงจุ้ยเพื่อตัดสินใจในการลงทุนเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง เพราะต้องยอมรับว่าในทำเลธุรกิจที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะไม่ดีไม่ประสบความสำเร็จนั้น หรือในทำเลที่ดูแล้วศักยภาพทางการค้าในปัจจุบันยังไม่ดีมากนัก ก็มักจะมีข้อได้เปรียบในเรื่องของราคาที่จะเป็นราคาที่จับต้องได้ง่ายมากกว่าทำเลธุรกิจที่อยู่ในย่านที่ดีมากๆที่มักจะมีราคาสูงจนยากในการลงทุน ซึ่งการประเมินฮวงจุ้ยที่ดินในลักษณะนี้ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างมาก เพราะในบางครั้งนั้นทำเลนั้นๆก็เป็นทำเลที่ศักยภาพนั้นไม่ดีจริงๆ ในขณะเดียวกันในหลายๆครั้งนั้นทำเลนั้นกลับเป็น “ทำเลฮวงจุ้ยแห่งอนาคต” ที่รอเพียงให้กระแสพลังที่ดีมาหล่อเลี้ยงก็จะเริ่มให้คุณ หรือ บางแห่งก็เป็นทำเลที่ดีแล้ว แต่ทำการออกแบบอาคารที่ผิดหลักฮวงจุ้ยกลับทำให้ไม่เจริญรุ่งเรือง เรียกว่าเป็น “เพ็ชรที่ยังไม่ได้เจียระไน” ซึ่งคงเป็นการง่ายสำหรับนักดูฮวงจุ้ยที่จะบอกผ่านๆว่าไม่ให้ลูกค้าลงทุนในทำเลนี้ แต่การอาจจะทำให้ลูกค้านั้น “เสียโอกาสสำคัญ” ในชีวิตของเขาไป

เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว อ.ตะวัน ได้มีโอกาสไปประเมินศักยภาพของทำเลที่ดินแถวแหลมฉบัง ซึ่งเป้าหมายของลูกค้าคือต้องการประเมินว่าทำเลนั้นสามารถลงทุนในการทำธุรกิจอพาร์ทเมนต์หรือโรงแรมได้หรือไม่ โดยสิ่งที่เป็นข้อกังขาสำหรับที่ดินนี้คือ เป็นทำเลที่ดินเดิมนั้นทำธุรกิจเดิมแล้วไม่ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นที่ดินรกร้าง ซึ่งทำให้การตัดสินใจลงทุนทั้งในการซื้อที่และการลงทุนก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างนั้นเป็นเรื่องที่อยู่บนพื้นฐานของความเสี่ยง

ลักษณะทำเลเดิม (ภาพซ้าย) ที่เป็นทำเลที่รกร้าง สภาพแวดล้อมดูไม่เป็นมงคล อย่างไรก็ตามยังมีลักษณะบางอย่างที่ดีเช่น ลานโล่งด้านหน้า (ภาพขวา) ซึ่งเป็นตัวสะสมพลังจากทิศทางที่ดีของ “ฮวงจุ้ยที่เป็นมงคลในอนาคต”

ซึ่งในตอนที่ อ.ตะวัน ได้ไปที่ที่ดินครั้งแรกก็พบได้ทันทีว่าลักษณะของที่ดินนั้นโดยตัวโครงสร้างทางชัยภูมินั้นยังมีส่วนที่ดีอยู่ มีลักษณะที่สะสมกระแสพลังได้ แต่ในเรื่องขององศาทิศทางนั้นในช่วงก่อนหน้านี้ยังเป็นองศาทิศทางที่เป็นองศาเสื่อม จึงทำให้ “เวลารุ่งเรืองของที่ดิน” นี้ยังมาไม่ถึง ซึ่งรวมไปถึงภาพรวมของที่ดินในแปลงใกล้ๆด้วย ที่ยังดูแล้วอยู่ในสภาพที่ดูแล้วศักยภาพในการทำธุรกิจนั้นยังไม่ดีนัก แต่หลังจากที่ อ.ตะวัน ได้ประเมินโดยละเอียดจากศาสตร์ฮวงจุ้ยในระบบวิชาการ (Authentic Feng Shui) ก็มั่นใจได้ว่า สามารถลงทุนในที่ดินนี้ได้ เพราะลักษณะที่ดินนั้นมีชัยภูมิที่เป็นมงคลได้แก่ และการที่ตัวที่ดินนั้นอยู่ไม่ไกลจากถนนสายหลัก (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 7 ที่เชื่อมระหว่างสุขุมวิทกับถนนบายพาส) จึงถือว่ายังเป็นที่ดินที่รับกระแสพลังได้ และด้านหน้าของที่ดินนั้นมีลานโล่งขนาดใหญ่ใน “ทิศใต้” ที่จะเป็นทิศโชคในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกว่านี่คือ “เพ็ชรที่ยังไม่ได้เจียระไน” นั่นเอง อ.ตะวัน จึงได้แนะนำให้ตัดสินใจในโครงการลงทุนนี้ได้ อย่างไรก็ตามต้องอยู่ภายใต้ “การวางฮวงจุ้ยที่ดี” เพราะก็ยังมีบางส่วนของทำเลที่ยังมีข้อเสียซึ่งหากไม่แก้ไขก็อาจทำให้พบอุปสรรคในการทำธุรกิจได้เช่นเดียวกัน

ตำแหน่งที่ตั้งของทำเลนั้น ถือว่าดีเพราะได้รับกระแสพลังหลักจากถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 7 ที่เชื่อมต่อจากถนนสุขุมวิทโดยตรง เพียงแต่ต้องรอความเจริญรุ่งเรืองตามเงื่อนไขของ “ยุค” ตามหลักวิชาฮวงจุ้ยเท่านั้น

ที่ดินเดิมมีลานโล่งด้านหน้าที่เป็นตัวสะสมพลังที่เป็นมงคลในอนาคตให้ ซึ่งจะเริ่มให้ผลดีในยุคที่ 8 (พศ.2547-2567) จึงถือเป็นปัจจัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน

      ซึ่ง อ.ตะวัน ก็ได้ทำการจัดปรับฮวงจุ้ยไปควบคู่กับทางเจ้าของและสถาปนิก โดยได้ใช้เคล็ดวิชาชั้นสูงทั้งในเรื่องของการวางฮวงจุ้ยของทางน้ำที่ช่วยลากกระแสพลังดีประจำยุคให้เข้ามาหลากไหลที่อาคารให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงการวางฮวงจุ้ยของประตูทางเข้าอาคารให้รับกับองศาทิศทางที่ดี ร่วมไปกับการออกแบบบริเวณหน้าประตูทางเข้าให้มี “เหม่งตึ๊ง” หรือ ลานโล่งสะสมพลังแบบพิเศษ คือเป็นลานโล่งหลายชั้นเพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจโรงแรมอพาร์เมนท์ที่ต้องการได้ลูกค้าจากหลากหลายทิศทาง ส่วนการวางโถงภายในก็ต้องเลือกตำแหน่งของจุดรับลูกค้าและโถงลิฟท์ให้สามารถรับความเป็นมงคลของกระแสพลังจากภายนอกให้ได้มากที่สุด

อ.ตะวัน วางทางน้ำให้กับกลุ่มของอาคาร เพื่อดึงกระแสพลังจากทิศทางที่เป็นมงคลเข้ามาหล่อเลี้ยงอาคารให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงการวางรูปแบบของประตูและเฉลียงโดยใช้เทคนิคพิเศษ เพื่อเสริมความเป็นมงคลให้มากขึ้นไปอีก

อ.ตะวัน วางตำแหน่งของ “โถงประตู” ที่ได้รับกระแสพลังทั้งจาก “ลานโล่งภายนอก” ซึ่งสมัยก่อนเคยเป็นที่ดินรกร้าง ให้กลายมาเป็นฮวงจุ้ยที่เสริมความเป็นมงคล และ ยังนำพากระแสพลังจากโถงประตูนั้น จ่ายเข้าไป “หล่อเลี้ยงภายในอาคาร” ได้ด้วยการวางฮวงจุ้ยที่ดี

      นอกจากนี้การรายละเอียดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของสิ่งปลูกสร้างภายนอก เช่น อาคารของผู้อื่นนั้น หากเราสามารถเลือกการวางตำแหน่งอาคารของเราได้ดีนั้น ก็จะทำให้ได้ความเป็นมงคลจากอาคารอื่นๆได้ด้วย หรือรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ เช่น การวางตำแหน่งสวน การวางตำแหน่งของป้ายกิจการ นั้นถือเป็นเทคนิคสำคัญที่ใช้ในการปรับแก้ฮวงจุ้ยบางอย่างที่ไม่ดีของที่ดินนี้ให้เป็นมงคลเพิ่มขึ้น ถือเป็นการปรับปรุง “ศักยภาพทำเลการค้า” ให้มีเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างมาก

การเลือกวางตำแหน่งของอาคารของเราเทียบกับอาคารข้างเคียง ไปจนถึงการวางตำแหน่งของป้ายกิจการ การวางตำแหน่งของสวนและต้นไม้ ล้วนได้รับการวางตำแหน่งด้วยหลักของฮวงจุ้ยตามระบบวิชาการ

      ซึ่งในปัจจุบันนั้นภายใต้การบริหารจัดการที่เป็นมืออาชีพของเจ้าของโครงการและทีมงานร่วมไปกับการวางฮวงจุ้ยตามระบบวิชาการ (Authentic Feng Shui) ก็ทำให้กิจการของ “Grand Marina Hotel” กลายเป็นทำเลธุรกิจที่มีศักยภาพที่ดี ประสบความสำเร็จได้อย่างที่ต้องการ และสามารถคืนทุนให้กับโครงการได้อย่างรวดเร็ว เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดในโครงการอื่นๆต่อไปได้ครับ

เอื้อเฟิ้อภาพและข้อมูลจาก Grand Marina Hotel (http://grandmarina.net/)